โรงแรมในยุคปัจจุบันนี้ก็ถือได้ว่ามีการสร้างมากพอสมควร เพราะประเทศไทยของเรามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ทั้งคนไทยและต่างชาติได้เลือกที่เที่ยวตามความพึงพอใจ ด้วยเหตุนี้จึงมีการสร้างโรงแรมเพื่อรองรับที่พักอาศัยชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวนั่นเอง                 อาจจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า ควรสร้างโรงแรมที่ไหนดี? คำตอบก็จะแบ่งออกเป็นประเด็นๆไป ดังนี้ ควรสร้างโรงแรมให้ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุด สมมติที่จังหวัดภูเก็ต ก็จะขอยกตัวอย่างหาดกะรน เราควรสร้างโรงแรมให้อยู่ใกล้หาดกะรน เพราะมันจะได้สะดวกในการเข้าพัก และท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยว หากจะพูดง่ายๆก็คือให้เรามองดูว่าในประเทศไทยของเรามีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ที่ไหนบ้าง แหล่งท่องเที่ยวแต่ละที่มันอยู่จุดไหน เราก็ควรไปสร้างโรงแรมใกล้ๆแหล่งท่องเที่ยวนั้น เป็นต้น ควรสร้างโรงแรมในพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวเยอะๆ จังหวัดไหนที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยว และเป็นการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเยอะมาก จนโรงแรมไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เพียงพอ เพราะมาเยอะเกินไป ก็ให้ไปสร้างตรงนั้น เช่น จังหวัดเชียงใหม่ จังภูเก็ต จังหวัดตราด หรือจังหวัดที่คนนิยมไปเที่ยวกันเยอะๆ เป็นต้น ควรสร้างโรงแรมในพื้นที่ที่ยังไม่มีคนสร้าง ในข้อนี้ถือว่าเป็นข้อดี เพราะเราไม่ต้องมีคู่แข่ง ไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องของการแข่งขัน เพราะยังไม่มีคนสร้าง ถึงแม้บางพื้นที่ บางจังหวัด จะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยว จะเป็นพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวไม่นิยมเที่ยวก็ตาม เราก็ควรสร้างโรงแรมอยู่ดี เพราะอย่าลืมว่าถึงแม้จะไม่มีคนมาเที่ยว แต่ยังไงก็ต้องมีคนมาทำธุระ โดยเฉพาะการประชุม การอบรม สัมมนา จัดค่ายต่างๆ เป็นต้น เราไม่ควรมองแค่นักท่องเที่ยวอย่างเดียว ควรมองให้กว้างๆ มองถึงคนที่ติดต่อสัมพันธ์กันด้วย ประเด็นต่างๆที่ได้ยกมาในข้างต้นนี้ ถือเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของเราว่าเราควรสร้างโรงแรมที่ตำบลไหนดี ควรสร้างโรงแรมที่อำเภอไหนดีควรสร้างโรงแรมที่จังหวัดไหนดีควรสร้างโรงแรมที่ภาคไหนดี คำตอบได้บอกไปหมดแล้ว วิธีการในการพิจารณาประเด็นที่ยกมา…

โรงแรมนั้นถือว่ามีความสำคัญอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างชาติ เพราะเวลาที่คนเราไปเที่ยวนั้น ถ้าสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ไกลบ้าน ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนมักจะปฏิบัติเหมือนๆกัน คือไม่ได้ไป-กลับ ไม่ได้กลับมานอนที่บ้าน แต่จะนอนที่โรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว เพราะในการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถที่จะเที่ยวได้ทั่วถึงภายในวันเดียว ต้องใช้เวลาท่องเที่ยวอยู่หลายวัน การพักโรงแรมจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว โรงแรมนั้นก็มีหลายรูปแบบ แล้วแต่จะถูกออกแบบ แล้วแต่เจ้าของโรงแรมจะชอบรูปแบบไหน ชอบรูปแบบไหนก็จะเลือกสร้างตามรูปแบบที่ตนชอบ แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือโรงแรมจะมีหลายชั้น เพื่อที่จะเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวได้เพียงพอ จึงต้องสร้างๆหลายๆชั้นนั่นเอง บางโรงแรมก็สร้าง 5 ชั้น บางโรงแรมก็สร้าง 10 ชั้น หรืออีกหลายๆโรงแรมก็สร้างมากกว่า 10 ชั้นก็มี ก็อย่างที่บอกไปว่ามันอยู่ที่การออกแบบ                 การสร้างโรงแรมนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะสร้างครั้งเดียว แต่เงินไหลมาเทมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะได้รับเงินค่าที่พักจากนักท่องเที่ยวแล้ว ยังได้เงินจากกลุ่มต่างๆที่เข้ามาจัดค่าย มาอบรม ประชุม สัมมนาอีกด้วย ถือว่าการสร้างโรงแรมนั้นเป็นการรองรับลูกค้าได้หลายทาง แต่การที่จะสร้างโรงแรมนั้นเราควรศึกษาตลาดให้ดีเสียก่อน ว่ามีคนสร้างเยอะแล้วหรือยัง หากพื้นที่ไหนคนสร้างเยอะมากพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้แล้ว เราก็ไม่ควรไปสร้างโรงแรมในพื้นที่ใกล้เคียงกับเขา ควรเลือกสร้างโรงแรมในพื้นที่ที่ยังไม่มีใครมาสร้าง สร้างในพื้นที่ที่ขาดแคลนโรงแรม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าพื้นที่นั้นๆยังไม่มีคนสร้าง แล้วเราจะไปสร้างเลย เราควรดูก่อนว่าที่เขาไม่มาสร้างโรงแรมนั้นเพราะอะไร เพราะมันไม่ใช่พื้นที่ที่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหรือเปล่า? เพราะมันห่างไกลแหล่งท่องเที่ยวหรือเปล่า? เพราะคนไม่ค่อยมาเยือนพื้นที่แห่งนี้หรือเปล่า? ควรศึกษาดีๆ แต่ในอีกมุมหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่คนนิยมไปเที่ยวนั้นอาจมีการสร้างโรงแรมไว้เยอะแล้ว แต่ในบางครั้งมันก็อาจจะยังไม่เพียงพอ…

ก็เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าหอพักนักศึกษาในยุคปัจจุบันนี้มีเยอะมาก ถือเป็นการแข่งขันทางธุรกิจที่ค่อนข้างสูง เจ้าของหอพักต้องมีกลยุทธ์ มีวิธีการรับมือที่ชาญฉลาด ธุรกิจหอพักถึงจะดำรงอยู่ได้                 ท่ามกลางยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ หลายคนก็อาจจะเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าควรสร้างหอพักนักศึกษาหรือไม่? คำถามนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดจนปวดหัวอยู่ค่อนข้างมาก มันสามารถมองได้หลายมุม แต่มันก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยงต่อการขาดทุนเช่นกัน เพราะถ้าเศรษฐกิจไม่ดีแล้ว จะใช้เงินซื่ออะไรก็ต้องคิดแล้วคิดอีก ของที่ไม่จำเป็นก็จะถูกตัดออก แต่ก็เกิดคำถามขึ้นมาอีกว่า…แล้วหอพักนักศึกษานั้นจำเป็นหรือไม่? คำตอบคือ จำเป็น หอพักนักศึกษานั้นจำเป็นก็จริง แต่อย่าลืมว่าหอพักในมหาวิทยาลัยก็มี และหอพักในของมหาวิทยาลัยราคาถูกกว่าหอพักนอกแน่นอน ด้วยเหตุนี้ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง คนจึงเลือกพักหอพักในมหาวิทยาลัย ถึงแม้จะไม่มีอิสระเหมือนการพักหอนอก แต่ด้วยความจำเป็นที่ไม่มีทางเลือก ก็จำเป็นต้องพักหอพักใน แต่ถึงเศรษฐกิจจะฝืดเคืองอย่างไร นักศึกษาก็ยังคงต้องเรียนต่อไป จบมัธยมปลายก็ต้องเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอยู่ดี และหอพักในก็ไม่ได้มีเยอะพอที่จะรับนักศึกษาได้หมด คนที่จองช้า จองไม่ทัน ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องไปพักหอพักนอกแบบไม่มีทางเลือก หากเราสร้างหอพัก ก็คงไม่เสียหายอะไร เพราะอย่างน้อยก็ต้องมีคนมาพักหอเรา เพราะหอในเต็ม หลายคนอาจคิดแบบนี้ แต่อย่าลืมว่าคนที่เขาสร้างหอพักก่อนเราก็มี คนที่คิดจะสร้างเหมือนเราก็มี หอพักนอกก็มีเยอะแยะ แล้วเศรษฐกิจอยู่ในยุคฝืดเคือง แล้วเราควรสร้างดีหรือไม่?                 คำตอบคือไม่ควรสร้าง เพราะมันเสี่ยงต่อการขาดทุน อีกอย่างหอพักนักศึกษาก็มีเยอะ สามารถรองรับนักศึกษาได้เพียงพอแล้ว หากเราคิดอยากจะสร้างหอพักนักศึกษาจริงๆ ก็ควรสร้างในช่วงที่เศรษฐกิจดี ไม่ใช่มาสร้างในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำย่ำแย่แบบนี้ เพราะการสร้างหอพักนักศึกษา หรือการลงทุนทำธุรกิจต่างๆในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี ในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง มันจะทำให้เราขาดทุนหนักจนสิ้นเนื้อประดาตัว จนตั้งหลักไม่ได้…

หอพักในยุคปัจจุบันนี้จัดได้ว่ามีเยอะกว่ายุคก่อนๆที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนหลายคนเกิดอาการตื่นตัวในการทำธุรกิจนี้ ด้วยเหตุผลที่มองว่าธุรกิจหอพักนี้เป็นการสร้างรายรับตลอดชีพ สร้างครั้งเดียวแต่ได้เงินอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้นักลงทุนหลายคนหันมาสร้างหอพัก ทำให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจหอพักค่อนข้างสูง สำหรับคนที่เป็นเจ้าของหอพัก ก็อาจจะเกิดความเครียด วิตกกังวล ที่คู่แข่งทางธุรกิจมีมากขึ้นเรื่อยๆ กลัวว่าธุรกิจของตนจะไม่ราบรื่นเหมือนที่ผ่านมา กลัวลูกค้าไม่เข้ามาพักในหอพักของตน เพราะมันมีหอพักอื่นๆอีกมากมายให้คนที่จะเข้ามาพักได้เลือก ก่อนจะตัดสินใจเข้ามาพัก เรื่องนี้ถือว่าเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลให้เจ้าของหอพักอยู่ไม่น้อย แต่ปัญหานี้จะหมดไป หากเรามีวิธีรับมือที่ดี วิธีการรับมือที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจมาพักในหอพักของเรา คือ หอพักของเราจะต้องมีความปลอดภัย คนนอกไม่สามารถมาสร้างอันตรายให้คนในหอของเราได้ รวมถึงเรื่องการขโมยของนั้นอย่าให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนนอกเข้ามาขโมย หรือคนในขโมยของกันเอง ในกรณีอาจจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อที่จะจับตัวคนทำผิดได้ง่าย รวมถึงอาจจะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น เช่น การกำหนดเวลาปิด-หอ เป็นต้น หอพักของเราจะต้องน่าอยู่ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะทุกคนล้วนมีความต้องการที่เหมือนกัน ชอบหอพักสวยๆ บรรยากาศดีๆ เราจึงควรออกแบบหอพักให้ดีๆ เลือกสีที่สวยงาม รวมถึงปลูกดอกไม้ ต้นไม้ ตามความเหมาะสม เพื่อให้หอพักของเราร่มรื่น และน่าอยู่มากยิ่งขึ้น หอพักของเราจะต้องไม่เก่า ไม่ทรุดโทรม เราจะต้องทำการตรวจเช็ค ปรับปรุงและซ่อมแซมหอพักอยู่เสมอ เพราะถ้าหากหอพักของเราเก่า ชำรุดทรุดโทรม ก็จะทำให้ไม่มีคนเข้ามาพักนั่นเอง จะต้องให้การบริการที่ประทับใจต่อคนที่เข้ามาพักและคนที่เข้ามาติดต่อ ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาที่ไพเราะ ให้ความเป็นกันเอง อัธยาศัยดี และที่สำคัญหากลูกค้าที่เข้ามาพักมาบอกว่าห้องพักมีจุดที่ชำรุด เช่น…

หอพักนักศึกษาทุกวันนี้มีมากขึ้นกว่ายุคที่ผ่านมา เพราะมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง นักลงทุนด้านนี้หลายคนคิดอ่าน มองการณ์ไกลว่าควรรีบลงทุนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทางด้านนี้ เพราะมันจะมีการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต ถึงแม้ว่าการลงทุนทำธุรกิจหอพักนักศึกษานี้จะไม่ได้ผลกำไรในระยะแรก เพราะมันเป็นการเรียกทุนคืน แต่มันก็คุ้มค่ากับการรอคอยที่เราจะได้ผลกำไรในระยะยาว                 การลงทุนทำธุรกิจหอพักนักศึกษานั้นถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ไม่เสียเปล่า ได้รับเงินตลอด เพราะมีนักศึกษารุ่นใหม่ๆเข้ามาพักอย่างไม่ขาดสาย รุ่นเก่าจบไป รุ่นใหม่ก็เข้ามาแทนที่ เราจึงได้รับเงินอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเราจะต้องเสียภาษี แต่มันก็ถือว่าคุ้มกับค่าตอบแทนที่ได้มา ข้อดีของการลงทุนทำหอพักนักศึกษานั้นมีมากมาย คือ เราสร้างหอพักแค่ครั้งเดียว แต่รับเงินได้ตลอดชีพ สร้างแล้วก็รอเก็บเงินอย่างเดียว แต่นานๆไปหอพักของเราอาจเก่า สีผนังซีด ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงแค่ทาสี ซ่อมแซม ปรับปรุงเล็กๆน้อยๆก็ทำให้หอพักของเรากลับมาใหม่เอี่ยม สีสดใสได้ เราไม่ต้องทำงานหนักอะไร แค่ไปเก็บค่าเช่ารายเดือน หรือรายเทอมก็แล้วแต่จะทำข้อตกลงกัน รวมถึงไปเก็บค่าน้ำ ค่าไฟ ในช่วงสิ้นเดือน หน้าที่ของเราก็มีเพียงเท่านี้ ถือว่าเป็นงานที่สบาย เป็นการลงทุนที่ดี มีกิจการเป็นของตัวเอง เมื่อแก่ตัวไปก็สามารถมอกิจการหอพักให้ลูกหลานได้ เป็นการปูทางให้ลูกหลานของเราในอนาคต เราเป็นคนริเริ่มกิจการให้เขา ในภายภาคหน้าเขาจะได้เป็นคนมาต่อเติมและพัฒนากิจการของเราให้ดียิ่งขึ้น หากเราเป็นนักลงทุนสร้างหอพักเป็นคนแรกๆ ก็จะส่งผลดีเป็นอย่างมาก เพราะตอนนั้นหอพักยังไม่ถูกสร้างขึ้นมากมายเหมือนในปัจจุบัน ทำให้คู่แข่งไม่สูง ไม่ต้องปวดหัวในเรื่องการแข่งขัน เพราะถึงอย่างไรแล้วนักศึกษาก็ต้องมาพักหอพักของเราอยู่แล้ว ไม่ต่างอะไรจากการผูกขาดเลย เพราะตอนนั้นหอพักมีไม่มาก คนพักไม่มีสิทธิ์เลือก ที่ไหนว่างก็อยู่ที่นั่น แต่ในปัจจุบันมันตรงกันข้าม…

สำหรับบางคน การตระเวนตามโครงการต่างๆ ทั่วเมือง เพื่อดูบ้านตัวอย่าง หรือห้องตัวอย่างในคอนโดมิเนียม หรือการสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณถนัดสักเท่าไหร่ ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจนแทบละลายแบบทุกวันนี้ หรือการเสพข้อมูลที่มากจนตาลายบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน ดูไป อาจต้องดมยาดมไปด้วย แหม่…ก็มันเยอะจนเลือกไม่ถูกน่ะสิ ทางออกหนึ่งที่ดีและหวังผลได้ก็คือ….การหาตัวแทนหรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์สักคน ที่จะเป็นคนจัดเตรียมข้อมูลทั้งหมดให้แก่คุณ เพียงแค่คุณแจ้งเงื่อนไข หรือความต้องการในการซื้อที่อยู่อาศัยให้แก่ตัวแทนหรือนายหน้า ว่าอยากได้บ้านหรือคอนโดแบบไหน ราคาสูง ต่ำ หรือปานกลาง ทำเลแถวไหน มีเงื่อนไขอื่นๆ อย่างไรบ้าง พร้อมสภาพคล่องทางการเงินของคุณ เพื่อให้นายหน้าทำการวิเคราะห์และสืบค้นข้อมูลทั้งหมดให้แก่คุณ เพียงเท่านี้ ความสุขจากการมีบ้านหรือที่พักอาศัยดีๆ สักแห่ง ก็คงไม่ไกลเกินฝัน แต่หากคุณยังไม่รู้จะเริ่มในการหาตัวแทนหรือนายหน้าอสังหาฯ อย่างไรดี เชิญทางนี้….เพราะเรามีทริคดีๆ มาเสนอ ตัวแทนหรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์คือใคร???? และจะหาได้จากที่ไหน???? ตัวแทนหรือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ อาจจะมาในรูปบุคคลทั่วไป (Freelance) หรือบริษัทจัดหาบ้านก็ได้ ปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เราสามารถค้นหาทุกสิ่งทุกอย่างได้จากอินเตอร์เน็ต อยากบอกว่า นายหน้าอสังหาก็ เช่นเดียวกัน พวกเค้าทั้งหลายไม่ใช่มนุษย์ถ้ำ เพราะไม่ว่าคุณหรือใครก็สามารถหาพวกเค้าเจอได้จากอินเตอร์เน็ตนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นจากเว็บไซต์ต่างๆ หรือ facebook นายหน้าหรือตัวแทนที่ดี ควรมีลักษณะเช่นไร??? มีความโปร่งใส ไม่ลึกลับ และให้ข้อมูลติดต่อที่เป็นจริงแก่ลูกค้า…

เพราะเราเข้าใจดีว่า…สำหรับคนรุ่นใหม่….จะมีไลฟ์สไตล์การกิน เที่ยว ช็อป  ที่ต้องการความสะดวกสบาย ทั้งในด้านการเดินทาง การหาที่จอดรถ ความหลากหลาย สดใหม่ ไม่จำเจของสินค้าและบริการ สิ่งเหล่านี้….สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่า “คนรุ่นใหม่ ฉลาดกิน ฉลาดเลือก”  ในทุกๆ ด้าน ไม่เว้นแม้แต่การเลือกบ้านเพื่ออยู่อาศัย ด้วยพฤติกรรมฉลาดเลือกนี่เอง ทำให้คนรุ่นใหม่ใส่ใจกับเรื่อง “บ้าน…บ้าน”  การมีบ้านสักหลัง….จึงไม่ลืมที่จะคิดถึงองค์ประกอบเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ❶  บ้านที่ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง อีกทั้ง….ไม่เป็นพิษกับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย เช่น สีทาภายนอก ภายใน ที่ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้/สารก่อมะเร็ง หรือสารอันตรายอื่นๆ ❷ บ้านแนวใหม่ที่มีคอนเซ็ปต์ช่วยประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยคุณประหยัดเงินในกระเป๋าที่ต้องจ่ายเป็นค่าไฟฟ้าได้ดีทีเดียว ❸ บ้านที่ใช้เป็นศูนย์รวมสมาชิกในบ้านได้ทุกเพศทุกวัย ด้วยฟังก์ชั่นบ้านที่มิกซ์แอนด์แมทช์เพื่อตอบสนองความต้องการของ คนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่ได้อย่างลงตัว ❹ บ้านดีมีดีไซน์ เช่น บ้านแนวราบสไตล์เพนท์เฮ้าส์ หรือบ้านที่มีพื้นที่ Outdoor แบบปิด คล้ายกับ Glass House สามารถ มองเห็นสวนแวะวิวด้านนอกได้จากด้านในของบ้าน ❺ บ้านหรูในเมือง หรือใกล้แนวรถไฟฟ้า หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ใกล้แหล่งกิน แหล่งเที่ยว แหล่งช็อปปิ้ง…

หลังจากที่เรากลับมาจากเรียนต่อที่ต่างประเทศ ทางบ้านมีปัญหาเกิดขึ้นเราจำเป็นต้องสร้างบ้านให้คุณแม่ใหม่ แต่เราเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นาน เริ่มงานได้แค่ 6 เดือนเท่านั้น แต่ทำอย่างไรได้ครอบครัวต้องมีที่อยู่ เราเลยไปปรึกษากับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างซึ่งเป็นคนรู้จักกัน ว่าเราจะสร้างบ้านเราต้องทำการกู้อย่างไร เค้าก็ให้คำปรึกษาและแนะนำให้กู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ วันนี้เรามีเทคนิคและขั้นตอนในการเดินเรื่องกู้ซื้อบ้านให้ผ่านมาฝากกัน                 1.แบบบ้าน แบบบ้านที่เราเลือกต้องมีราคาไม่สูงเกินเมื่อเทียบกับรายรับของเรา เราสามารถคำนวณได้ว่าเราต้องผ่อนเดือนละเท่าไหร่ จากเวปไซด์ทั่วไป ถ้าเราเลือกบ้านที่ราคาสูงเกินไปก็จะเป็นภาระ และเราก็จะยื่นกู้ผ่านยากด้วย                 2.หนี้เป็นศูนย์ ขอบอกก่อนว่าเรากู้ร่วมกับแม่เพราะว่าที่ดินเป็นชื่อแม่ จะแบ่งแยกก็ช้าทางธนาคารก็เลยแนะนำให้กู้ร่วม แต่แม่มีหนี้ผ่อนรถอยู่เดือนละหมื่นกว่าบาท ทางธนาคารให้ไปปิดหนี้รถให้หมดก่อน ส่วนเรานั้นไม่มีหนี้เนื่องจากเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เมื่อไปปิดหนี้รถแล้วก็สบายสำหรับคนที่มีบัตรเครดิตนั้นควรปิดบัตรหรือหยุดการใช้บัตรอย่างน้อย 6 เดือนก่อนที่จะทำยื่นกู้นะ                 3.เงินเก็บต้องมี สำหรับคนที่ไม่มีรายได้ประจำอย่างแม่ของดิฉันนั้น การที่จะกู้ร่วมได้นั้นต้องมีเงินเก็บในบัญชีด้วยเพื่อเป็นหลักประกัน ถึงแม้ว่าภาระการผ่อนจะตกอยู่ที่ดิฉันเพียงคนเดียวก็ตาม แต่ทางธนาคารแจ้งว่าธนาคารไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ ทางธนาคารเข้าใจว่าต้องช่วยกันผ่อนเท่านั้น โชคดีที่แม่มีเงินเก็บในบัญชีเป็นหลักแสน หลักจากที่ปิดหนี้รถไปแล้ว ส่วนของตัวดิฉันเองแล้วมีรายได้และไม่มีหนี้ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร                 4.เอกสารเพื่อเตรียมพร้อม ครั้งแรกที่ยื่นเอกสารกู้สร้างบ้าน เราโทรไปติดต่อทางธนาคารก่อนว่าเราจะกู้ซื้อบ้านต้องเตรียมเอกสารอะไรไปบ้าง ทางธนาคารก็ใจดีแจ้งมาว่าให้เราเตรียมอะไรบ้าง แต่เรายังขาดเอกสารอีกอย่างคือ แปลนบ้าน ทีนี้ก็ต้องวิ่งไปหาผู้รับเหมาสิค่ะ ทางผู้รับเหมาเค้าไม่ได้รับเขียนแปลนบ้าน แต่ก็ยังใจดีแนะนำคนเขียนแบบให้ คุยกันบอกความต้องการว่าอยากได้บ้านแบบไหน บ้านเราออกแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก นัด 3 วันเสร็จ มารับแบบแปลนพร้อมจ่ายเงินค่าเขียน…

บ้านเป็นสิ่งที่ทุกครอบครัวใฝ่ฝันที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของกันทั้งนั้น สำหรับคนที่ต้องการมีบ้านเป็นของตนเองแล้ว ทางเลือกหนึ่งก็คือการกู้ซื้อบ้าน การกู้ซื้อบ้านเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้จะมีธนาคารหรือสถาบันการเงินอยู่หลายแห่งที่ปล่อยวงเงินสินเชื่อทำเพื่อการซื้อบ้านและที่อยู่อาศัย แต่ก่อนที่เราจะทำการกู้ซื้อบ้านนั้นเราควรที่จะเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ก่อนที่จะเข้าไปติดต่อกับทางธนาคาร เพื่อที่วงเงินสินเชื่อที่เราต้องการกู้นั้น จะได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็วไม่ติดขัด   สำหรับพนักงานประจำ 1.ประวัติการทำงานสลิปเงินเดือน หนังสือรับรองรายได้เงินเดือน เอกสารการรับรายได้เงินเดือน สำหรับคนที่ทำงานประจำแล้วต้องการยื่นกู้กับทางธนาคารต้องทำงานกับทางบริษัทมาอย่างน้อย 6 เดือน  – 1 ปี เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงเกี่ยวกับการทำงานของเรา แสดงถึงความมั่นคงของสถานะทางการเงิน 2.เครดิตต้องดี หนี้ต้องไม่มีการกู้เงินซื้อบ้านจะมีการเช็คเครดิตบูโร เพื่อดูประวัติทางด้านการเงินของคุณด้วย สำหรับคนที่ประวัติทางด้านการเงินไม่ดี มียอดค้างชำระหรือติดแบล็คลิสต์แล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าคุณมีโอกาสที่จะกู้ผ่านนั้นน้อยมาก ดังนั้นก่อนที่คุณจะทำเรื่องกู้นั้น คุณต้องเคลียร์หนี้สินให้หมดเสียก่อนอย่างน้อย 6 เดือน แต่สำหรับคนที่ไม่สามารถเคลียร์ได้หมด คุณต้องทำให้หนี้เหลือน้อยที่สุดประมาณ 10%ของรายรับหรือไม่มีเลย 3.เงินสำรองต้องพร้อม ก่อนที่เราจะทำการซื้อบ้านเราต้องมีเก็บสำรองไว้ก้อนหนึ่งก้อน เงินก้อนนี้จะเท่ากับจำนวนเงินดาวน์ของบ้านที่เราต้องจ่ายรวมกับค่าผ่อนบ้านที่เราต้องผ่อนอย่างน้อย 6 เดือน โดยปกติแล้วตามโครงการบ้านจัดสรรจะมีการดาวน์ประมาณ 5-20% ของราคาบ้านอยู่แล้ว ยิ่งเราจ่ายเงินดาวน์มากเท่าไหร่ เราก็จะเสียดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารน้อยเท่านั้น 4.เลือกธนาคาร ในการยื่นกู้เราควรศึกษาเกี่ยวกับกู้ซื้อบ้านของหลายๆธนาคาร เพราะแต่ละธนาคารจะมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน เวลายื่นก็แนะนำให้ยื่นกู้กับธนาคารหลายๆแห่ง เพราะว่าธนาคารแต่ละแห่งนั้นมีหลักเกณฑ์การตัดสินอนุมัติวงเงินสินเชื่อที่ต่างกัน คุณกู้ธนาคารแห่งแรกไม่ผ่าน แต่ธนาคารแห่งที่สองเรื่องกู้ของคุณอาจจะผ่านก็ได้ 5.จัดเตรียมเอกสาร การเข้าไปยื่นเรื่องกับทางธนาคารเราควรเตรียมเอกสารให้ครบตามที่ธนาคารได้กำหนดไว้ จะได้ไม่เสียเวลาเดินทางหลายรอบเนื่องจากเอกสารไม่ครบ…

สวัสดีครับ เรา ขายบ้านศรีราชา และขายบ้านพัทยา’ ได้มาพบกันอีกแล้วสำหรับเรื่องราวดีๆ และในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องราวที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่กำลังเตรียมจะซื้อบ้าน แต่ว่ากำลังทรัพย์ยังไม่ถึง เรื่องของการกู้ซื้อบ้านจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะนั้น เรื่องของการกูซื้อบ้านมันคือปัญหาอย่างหนัก เพราะว่าหลายคนนั้นไม่รู้ว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าน และในวันนี้ ‘ขายบ้านศรีราชา และขายบ้านพัทยา’ จึงได้นำมาให้ท่านได้รับรู้กันแล้วครับ   เอกสารขอกู้ซื้อบ้านมือสอง โดย ‘ขายบ้านศรีราชา และขายบ้านพัทยา’ ก่อนที่เราจะทำการยื่นกู้ซื้อบ้านมือสองนั้น ผู้ซื้อจำเป็นที่จะต้องเตรียมเอกสาร และหลักฐานให้พร้อม โดยจะต้องมีเอกสารเหล่านี้             หลักฐานส่วนตัวที่ต้องในการกู้ซื้อบ้านมือสอง by ‘ขายบ้านศรีราชา และขายบ้านพัทยา’ – สำเนาทะเบียนบ้าน – บัตรประจำตัว (ตัวจริง) – ทะเบียนสมรส หากมีคู่สมรส หากหย่าร้าง ต้องมี ทะเบียนใยหย่า หรือใบมรณะบัตร – สำเนาเปลี่ยนชื่อ สกุล (ถ้ามี)   หลักฐานเกี่ยวกับรายได้ แบ่งเป็น 3 กรณี สำหรับกู้ซื้อบ้านมือสอง โดย ‘ขายบ้านศรีราชา…