ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พัทยาได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศ มีผู้คนมากมายเดินทางเข้ามาเพื่อพักผ่อนชั่วคราว และหลายรายได้เข้ามาอยู่อาศัยอย่างถาวร ทำให้การซื้อ – ขายบ้านพัทยามีการแข่งขันกันอย่างมหาศาล ด้วยเม็ดเงินที่หมุนเวียนมากกว่าหลายร้อยล้านต่อปี สามารถการรันตรีได้ว่า ผู้คนทั้งคนไทย และคนต่างประเทศ ได้ให้ความสนใจเมืองพัทยาอย่างมาก ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เหตุใดเมืองแห่งนี้ถึงได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีการซื้อ – ขายบ้านพัทยา ที่สร้างรายได้อันมหาศาล วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน   หลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าพัทยานั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงาม อีกทั้งยังหลอมรวม เทคโนโลยี และสถานบันเทิงเอาไว้จำนวนมาก ซึ่งจากสื่อต่างๆ ที่เราได้พบเห็นกันจนชิน กิจกรรมริมชายหาดของพัทยาเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว และผู้คนต่างๆ มากมาย แต่นี่ไม่ใช่เพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้การซื้อ – ขายบ้านพัทยา เจริญถึงขีดสุด สิ่งที่ทำให้มูลค่าของการซื้อ – ขายบ้านพัทยาพุ่งขึ้นสูงนั้น ยังรวมไปถึง การหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้เกิดการก่อสร้างที่พักอาศัยจำนวนมากเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเป็นผลกระทบหลักที่เพิ่มมูลของการซื้อ – ขายบ้านพัทยา และอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ   นอกจากนี้พัทยายังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของวิถีชีวิตผู้คนจึงถูกเรียกว่า “เมืองท่องเที่ยวแห่งนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (The World Class Greenovative Tourism City) ด้วยการเล็งเห็นความสำคัญของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทางด้าน…

เนื่องจากพื้นที่ที่จำกัด บวกกับข้าวของเครื่องใช้มากมายเกินความจำเป็น ทำให้บางครั้งห้องดูไม่น่าอยู่ เล็ก หายใจไม่คล่อง อึดอัดจนทำให้สมาชิก หรือคนที่อยู่ด้วยไม่อยากกลับห้อง หากจะหาที่พัก บ้าน หรือคอนโดใหม่ มันไม่ใช่ทางออกทีดีเลยสำหรับเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแย่ และไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นแบบนี้  แต่การทนอยู่ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเช่นกัน แล้วจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้ห้องน่าอยู่ ไม่อึดอัด และดูกว้างมากขึ้นไปดูกัน 1.อย่างที่รู้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าสีอ่อนๆ จะช่วยให้ห้องดูสว่างมากขึ้น แนะนำให้เป็นสีขาวไปเลย จะช่วยในการอำพรางสายตาให้ห้องดูขยาย กว้างขึ้น หากมีงบสักหน่อยแนะนำให้เลือกทาทั้งผนังและเพดานควบคู่ไปเลย เพื่อความสว่างและความรู้สึกเบาบางขึ้นนั่นเอง 2.ประดับประดา ตกแต่งด้วยสีที่สดใส สดชื่นหูสดชื่นตา เมื่อได้เปลี่ยนสีห้องมาเป็นสีอ่อนๆ ไม่ควรปล่อยให้ห้องดูซีด หรือจืดจนเกินไป ให้คุณแก้ไขด้วยการเลือกตกแต่งด้วยสิ่งของที่มีสีสันสวยสดใส อาจเป็นเฟอร์นิเจอร์สีเข้มขึ้น ในที่นี่จะช่วยเพิ่มสไตล์และความโดดเด่น มีพลัง และดูเป็นตัวเองมากยิ่งขึ้น 3.อย่าปล่อยให้ห้องรก หากมีของชิ้นเล็กชิ้นน้อยจำนวนมากเกินไป แนะนำให้โล๊ะออกบ้าง อาจนำไปขาย หรือบริจาค อันไหนที่ใช้การไม่ได้จะเก็บให้รกห้องทำไม ทิ้งออกไปเสีย สำหรับชิ้นไหนที่ตัดใจไม่ไหว แนะนำเลยว่าหาที่เก็บไว้เป็นที่เป็นทาง อย่ามาตังไว้ให้รก หรือไม่เป็นระเบียบอย่างเด็ดขาด อาจจะดีกว่านี้หากเฟอร์นิเจอร์ในห้องของคุณ เช่นเตียง หรือโซฟามีที่เก็บของด้วย เพียงเท่านี้จากห้องที่แคบๆ ดูใหญ่ขึ้นมาทันตาเห็น 4.ทฤษฎีแนวตั้ง เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับห้องแคบๆ  การที่คุณจะสร้างพื้นที่เพิ่มขึ้นจากพื้นที่จำกัดนั้นแนะนำให้ใช้ที่เก็บของแบบแนวตั้ง  เช่นชั้นวางหนังสือที่สูงยันเพดาน…

ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมสมัยนี้ผู้คนหันมาให้ความสนใจและอาศัยอยู่ในคอนโดกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งเนื่องจากคอนโดอำนวยความสะดวกและสามารถตอบโจทย์ความต้องการเรื่องการบริการได้ดีกว่าการอยู่บ้านสำหรับครอบครัวเล็กๆ แล้ว บ้านอาจจะดูใหญ่เกินไปเสียด้วยซ้ำ คนที่อาศัยอยู่คอนโด อย่าลืมไปนะคะว่าฮวงจุ้ยจัดเป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดและไม่ควรมองข้ามไปอย่างเด็ดขาด หากคอนโดที่เช่า หรือซื้อมีฮวงจุ้ยไม่ดี เชื่อกันว่าจะทำให้ผู้อาศัยพบแต่ปัญหาไหลเวียนเข้ามีรู้จักจบจักสิ้น ดังนั้นวันนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา เราจึงได้ศึกษา การจัดฮวงจุ้ยคอนโดที่ถูกต้องมาฝาก ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน หรือห้องรับแขก จะต้องจัดอย่างไรบ้างนั้น ตามไปดูกันได้เลย การจัดฮวงจุ้ยสำหรับห้องนอนให้ถูกหลักมีดังนี้ สำหรับห้องนอนนั้นถือเป็นจุดพีคเลยก็ว่าได้ เป็นห้องที่สำคัญมากที่สุด เนื่องจากคนเราส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาอยู่ในห้องนอนมากที่สุด เกือบ 12 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญห้องนอนเป็นห้องที่ใช้สำหรับการพักผ่อน จากอาการเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ตามหลักแล้ว ห้องนอนที่ดีจะต้องประกอบไปด้วยหน้าต่าง ที่สามารถให้อากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก หากพื้นที่คอนโดของคุณมีการเล่นระดับ สำหรับห้องนอนแล้วจะต้องเลือกอยู่บนพื้นที่ยกระดับสูง ตีความหมายได้ว่าเป็นการขึ้นที่สูง จะส่งผลให้มีความก้าวหน้า มีตำแหน่งในหน้าที่การงานที่สูงขึ้น ในด้านของการจัดวางข้าวของเครื่องใช้ หรือเฟอร์นิเจอร์ ระวังและห้ามอย่างเด็ดขาด อย่าให้หัวเตียงหันไปทางห้องน้ำ หรือชิดติดกับผนังห้องน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะคนไทยเราเชื่อเรื่องโชคลาง และสิ่งอัปมงคล และห้องน้ำจัดเป็นสิ่งอัปมงคลที่ร้ายแรง ไม่แนะนำให้มีห้องน้ำในห้องนอนเสียด้วยซ้ำไป เพราะมันเป็นแหล่งอับชื้น และเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคต่างๆ นอกจากนี้ห้องนอนไม่ควรตั้งอยู่ใกล้กับประตูเข้าห้อง เพราะจะเป็นการรบกวนการพักผ่อนที่สำคัญฮวงจุ้ยถือว่าเป็นห้องที่ไม่ควรมีใครที่จะเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ประตูห้องนอนเองก็ไม่ควรอยู่ตรงกับ ห้องครัว ห้องน้ำ หรือห้องส้วมอย่างเด็ดขาด  เชื่อกันว่า หากมีประตูห้องนอนอยู่ตรงกับห้องครัว จะทำให้มีพลังของธาตุไฟจากในห้องครัว ทำให้เราร้อนกายร้อนใจ หรือถ้าหากอยู่ตรงกับ…

ปัจจุบันนี้หลายคนหันมาอยู่ที่คอนโดแทนการอยู่บ้านกันมากขึ้น เนื่องจากคอนโดมีสิ่งอำนวยความสะดวก สบาย ไม่ว่าจะเป็นฟิสเนต สระว่ายน้ำ สโมสรต่างๆ รวมไปถึงข้อดีอีกหลายๆ อย่างมากมาย แต่ทุกวันนี้หากเลือกซื้อคอนโดที่ได้ดั่งใจ และตรงตามหลักฮวงจุ้ยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก หนึ่งคือเราเองยังไม่รู้หลักที่แท้จริง สองด้วยเนื้อที่ที่จำกัด ทำให้คอนโดถูกสร้างออกมาไม่ค่อยอิงหลักฮวงจุ้ยสักเท่าไหร่ หลักๆ เลยสำหรับการเลือกซื้อคอนโด จะต้องเลือกห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว อยู่ในพื้นที่ที่สามารถระบายอากาศได้ง่าย มีความสว่างเพียงพอ แต่ที่ได้มาไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวไว้ใช่มั้ยล่ะคะไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ โดยเฉพาะเรื่องของฮวงจุ้ยสามารถแก้ได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้ สำหรับการเลือกซื้อจะต้องไม่ซื้อห้องที่ติดทางด่วน หรืออยู่ใกล้รถไฟฟ้า เนื่องจากทางด่วน และ รถไฟฟ้า ที่มีตำแหน่งปิดกั้นระเบียงของห้องนั้น จะนำการกระแสพลังร้าย มาให้ นอกจากนี้จะเห็นได้เลยว่าคุณจะถูกรบกวนจากแสงไฟรถและเสียง ไม่ว่าจะเป็นกลางวัน หรือกลางคืน ตามหลักฮวงจุ้ย เชื่อกันว่าห้องนี้เป็นห้องที่อับจนเรื่องโชคลาภ เนื่องจากไม่ค่อยมีลมพัดเข้ามาเพราะถูกทางด่วน หรือเส้นทางเดินรถไฟบัง หากเป็นได้ควรหลีกเลี่ยงห้องที่มีลักษณะดังกล่าว แต่สำหรับใครที่ซื้อแล้ว สามารถแก้ไขได้ด้วยการสร้างน้ำพุที่ระเบียงเพื่อเป็นการแก้ไข พื้นที่คับแคบ ไม่ค่อยมีพื้นที่สำหรับเก็บข้าวของ คอนโดแต่ละตึกนั้นถูกสร้างขึ้นมาสำหรับให้คนอาศัยจำนวนมาก ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่แต่ละห้องจะมีพื้นที่ที่จำกัด ดังนั้นเจ้าของห้องจะต้องมีเครื่องใช้เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เพราะไม่อย่างนั้นห้องจะดูรกและเกลื่นกลาดไปด้วยข้างของของคุณอย่างแน่นอน หากชิ้นไหนที่ไม่ได้ใช้ แนะนำให้นำไปขาย หรือบริจาคเสียนะคะ เพราะหากปล่อยให้ห้องรถ ไม่เป็นระเบียบจะยากต่อการดูแล ที่สำคัญตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อกันว่าทำให้กระแสพลังงานในห้องไหลเวียนไม่สะดวก มีผลต่อการดำเนินชีวิต หน้าที่การงานและการเงิน…

อีกหนึ่งห้องที่ขาดไม่ได้ และเป็นห้องที่มีความสำคัญมากๆ  หากวันนี้คุณมีพื้นที่ที่ไม่กว้างพอสำหรับเครื่องใช้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหุงต้ม เตาอบ ซิงค์กว้างๆ โต๊ะเตรียมอาหารแล้วล่ะก็ คุณจะเสียพื้นที่ใช้สอยไปอย่างเห็นได้ชัดเจน ห้องครัวจะแคบและเล็กลงมาก เมื่อได้นำอุปกรณ์เครื่องใช้เหล่านี้มาไว้ในห้องครัว แล้วจะทำอย่างไร เพื่อที่จะให้ทุกพื้นที่ใช้สอยเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด วันนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เลือกตู้เก็บของที่สามารถใช้สอยได้ง่าย แนะนำว่าให้คุณได้ทำการเลือกตู้เก็บของแบบดึงออกมาได้เสมือนลิ้นชัก นอกจากประหยัดพื้นที่แล้ว ยังสะดวกในการใช้งานอีกด้วย ไม้ว่าจะเป็นที่เก็บเครื่องปรุง หรือขวดซอสต่างๆ เวลาที่ใช้งานสามารถเอื้อมมือไปหยิบจับได้ง่ายไม่ว่าจะอยู่ลึกมากเพียงไหน เลือกใช้อุปกรณ์เครื่องครัวขนาดกะทัดรัด และเหมาะสมกับพื้นที่ของห้องครัว มันอาจเป็นเรื่องที่หลายคนได้มองข้ามไป แต่เมื่อเทียบกับพื้นที่ห้องครัวเล็กๆ บอกเลยว่าทุกสัดส่วนย่องมีความสำคัญ ดังนั้นเจ้าบ้านจะต้องเลือกอุปกรณ์ หรือเครื่องครัวที่มีขนาดที่ เหมาะสมกับการใช้งานและห้องครัว เพื่อเซฟพื้นที่ของห้องครัวได้มากที่สุด ไม่เทอะทะ มีที่จับพอดีๆ และที่สำคัญตู้ที่มีผิวมันวาวจะช่วยให้เครื่องครัวสะอาด และดูใหม่อยู่ตลอดเวลา ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับการสร้างพื้นที่ในการเก็บของ หรือวางของนั้น คุณสามารถสร้างตู้เก็บของได้สูงถึงเพดานเลยนะคะแม้ว่าอาจหยิบยากสักหน่อย แต่สำหรับเครื่องใช้บางอย่างที่นานครั้งจะมีการใช้งาน ค่อยหยิบหรือต่อบันใดเอา จะช่วยให้มีพื้นที่เพื่อการใช้สอยอย่างอื่นได้มากขึ้น แต่อย่าลืมเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบด้วยนะคะ เพื่อจะได้ง่ายต่อการจำและหยิบใช้ เพิ่มความกว้างของพื้นที่ด้วยการกำจัดประตูออกไป รู้สึกหรือไม่ว่าการที่มีประตูห้องครัวนั้นทำให้คุณอึดอัด และรู้สึกหายใจไม่สะดวก เมื่อนำออกไปแล้วจะช่วยให้รู้สึกโล่ง และที่สำคัญห้องดูกว้างมากยิ่งขึ้น ไม่อึดอัด หรือหายใจไม่คล่องอีกต่อไป อย่าปล่อยให้ประตูกลายมาเป็นสิ่งกีดขวางการทำอาหารอีกล่ะ ทาสีตู้ให้เป็นโทนสีเดียวกับผนังห้อง เพื่อความสวยงาม และแมทกัน แนะนำเลยว่าให้คุณทาสีตู้ให้มีโทนสีเดียวกันกับผนัง สำหรับห้องที่มืด…

ความเสี่ยง(Risk) ของการลงทุนทุกชนิด  มีความเสี่ยงอย่างแน่นอน  แต่ความเสี่ยงนั้น  พิจารณาจากความเสี่ยงที่ต่ำเพื่อการลงทุนจะดีกว่าความเสี่ยงสูง   สำหรับการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์มีความเสี่ยงมากน้อยประการใด  ต้องทำการศึกษาก่อนการลงทุน  เพื่อความรอบครอบและความปลอดภัยของเงินในกระเป๋าท่าน   แล้วควรจะลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทใดดี  ที่ทำให้มีผลตอบแทนมากกว่า   ซึ่งในแต่ละช่วงเวลานั้น   การลงทุนในแต่ละประเภทจะมีความเสี่ยงและได้ผลตอบแทนในอัตราที่ไม่เท่ากัน  ซึ่งแล้วแต่ปัจจัยในหลาย ๆ ด้าน  มาดูเรื่องของความเสี่ยงกันว่ามีด้านใดบ้าง ความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ  ที่เพิ่มขึ้นทุกปี  ซึ่งการเก็บเงินไว้กับธนาคาร   ค่าของเงินอาจลดลงไม่มากก็น้อย  แต่การลงทุนกับสังหาริมทรัพย์  เช่นการซื้อที่ดินเก็บไว้  โดยถือครองระยะยาว  ยิ่งนานหลายปี  ราคาของที่ดินจะสูงขึ้นมากหลายเท่าตัว   เรียกได้ว่าไม่มีทางที่จะลดลงได้เลยเมื่อท่านทราบอย่างนี้แล้ว   ไม่ควรเก็บเงินไว้  ซึ่งจะเปล่าประโยชน์   จึงควรนำมาลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์จะได้ผลตอบแทนดีกว่า ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้น  เนื่องจากประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมาก  อสังหาริมทรัพย์จะมีราคาสูงขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน  บ้าน  คอนโดมิเนียม  หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น  ในทางกลับกัน  ถ้าภายในประเทศเศรษฐกิจไม่ดี   การค้าการขายตกต่ำ   อสังหาริมทรัพยจะขายไม่ออก  ยกตัวอย่างเช่น  บ้าน  หรือคอนโดมิเนียม  มีห้องเหลือมากมาย   โดยอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ จะยังคงชะลดตัวช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น   แต่ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินแล้ว  จะมีราคาไม่ได้ต่ำลงมาเลย  แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดีนัก  จึงควรเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจอย่างที่ดิน ความเสี่ยงเมื่อเทียบกับการลงทุนชนิดอื่น ๆ อย่างเช่น  การลงทุนในหุ้นที่มีความอัตราผลตอบแทนสูงกว่าก็จริง …

การลงทุนมีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน  ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก   บางท่านใช้เงินส่วนตัว  หรือเข้าหุ้นส่วนกัน  หรืออาจไปขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อมาลงทุน  โดยเสียดอกเบี้ย  ดังนั้นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนนั้น  ท่านต้องมั่นใจในการลงทุนประเภทที่ให้ความคุ้มค่า   ตลอดจนได้กำไร  และลดความเสี่ยง   หรือมีความเสี่ยงน้อยที่สุด  มีการลงทุนด้านหนึ่งที่ไม่ว่าจะยุคใด  ให้ผลตอนแทนที่คุ้มค่า  แต่ควรต้องมีความรู้ในการลงทุนประเภทนี้ด้วยการลงทุนที่ว่านั่นคือการทุนในอสังหาริมทรัพย์(Real Estate) ซึ่งมีอยู่หลายชนิด  ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในที่ดิน  สิ่งปลูกสร้าง  อย่างบ้านจัดสรร  คอนโดมิเนียม  หรืออาจจะเป็นให้เช่าโรงงาน  สร้างที่จอดรถ  โดยการลงทุนด้านนี้มีที่น่าสนใจหลายด้าน  ให้ท่านได้เลือกลงทุน   แล้วการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นดีอย่างไร 1.การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทนั้น  ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อการลงทุนได้  ซึ่งธนาคารทุกที่ให้การต้อนรับ  และมีเงินให้สินเชื่อด้านนี้อยู่แล้วทุกธนาคารก็ว่าได้   เป็นนโยบายสำคัญของสถาบันเงินเลยก็ว่าได้   แล้วส่วนใหญ่ที่มาขอสินเชื่อกับธนาคาร  จะเป็นเงินจำนวนมากด้วย  โดยธนาคารจะมีรายได้จากดอกเบี้ยเงินกู้นั้นจำนวนมากตามมา 2.ดอกเบี้ยสินเชื่อต่ำ  เป็นที่รู้กันสำหรับนักลงทุนว่า   การลงทุนในโครงการต่าง ๆ ถ้าการขอสินเชื่อเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นต่ำ  นักลงทุนจะหันมาลงทุนด้านนั้น   เพราะว่าเรื่องดอกเบี้ยที่ต่ำจะทำให้การลงทุนโดยที่ต้นทุนต่ำลงมาด้วย 3.สร้างกระแสเงินสดได้ดี  เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์สามารถแปลงเป็นเงินได้หลากหลายวิธีอย่างเช่นที่ดิน  สามารถจำนอง  ขายได้ทันที  หรือจะพัฒนาที่ดินให้ดีขึ้นกว่าเดิม   ถ้าเป็นตึกแถวเก่า  สามารถตกแต่งให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาได้อีกทางหนึ่ง 4.ยิ่งนานวันราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว  โดยเฉพาะที่ดินเป็นหลัก  ท่านจะเห็นว่า …

สังคมเมือง (Urbanization) มีการขยายตัวขึ้นเพิ่มมากขึ้น  เนื่องจากจำนวนประชากรที่ย้ายเข้ามาในเขตเมืองสูงขึ้น   บวกกับความเจริญที่กระจุกตัวอยู่ที่เมืองใหญ่สำคัญหลายเมือง   สิ่งที่ตามมาคือที่อยู่อาศัย  บ้านเรือน  และสิ่งปลูกสร้างหนาแน่นขึ้นทุกวัน   จนทำให้ต้องขยายไปที่เมืองอื่นๆ   ที่เป็นเมืองรองจากเมืองหลัก หรือเมืองท่องเที่ยว หรือขยายไปที่ตามชานเมืองที่สำคัญต่างๆ  จึงทำให้อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดิน   บ้าน   คอนโดมิเนียมและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ  มีราคาสูงขึ้นตามมา ก่อนเลือกที่อยู่อาศัย หรือการทำธุรกิจในอสังหาริมทรัพย์นั้นต้องทราบว่ามีอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่อยู่อาศัยนั้น  มีแบบใดบ้าง                     บ้านหลังเดี่ยว (Single Family Homes) เป็นที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่มากที่สุด ซึ่งมีตัวบ้านอยู่ตรงกลาง  โดยรอบจะเป็นสนามหญ้า  ในอดีตมีการก่อสร้างมากมาย แต่ในอนาคตบ้านหลังเดี่ยวอัตราการเจริญเติบโตอาจจะลดลง   เพราะโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเน้นไปที่คอนโดมิเนียมที่เป็นตึกสูงหลายชั้น  ต่อไปเป็นที่อยู่อาศัยแบบบ้านทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮม                      บ้านแฝด (Twin house) เป็นที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่รองลงมาจากบ้านเดี่ยว ลักษณะตัวบ้านจะคล้ายกับบ้านเดี่ยวแต่ด้านข้าง 1 ด้าน จะติดกับบ้านอีก 1 หลัง ส่วนอีก 1 ด้านข้าง จะมีพื้นที่ใช้สอยรอบตัวบ้าน…

บ้าน คือสถานที่ที่เราต้องอยู่อาศัยตั้งแต่เกิดจนตาย ในแต่ละวันเราใช้เวลาอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ก่อนที่เราจะสร้างบ้านสักหลัง เราควรคิดให้ดีๆ ออกแบบให้ดีๆ และวางแผนให้ดีๆ เพราะหากเราออกแบบหรือวางแผนผิดพลาด มันจะเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยาก เพราะมันไม่ใช่การออกแบบธรรมดา แต่มันเป็นการเสียเงินสร้างไปด้วย           สำหรับคนที่มีแนวความคิดที่จะสร้างบ้านหลังใหม่ ซึ่งกำลังลังเลอยู่ว่าจะสร้างบ้านแบบไหนดี จะสร้างบ้านไม้หรือบ้านปูนดี ระหว่างบ้านไม้กับบ้านปูนนั้นแบบไหนมันจะดีกว่ากัน ซึ่งกรณีนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล ก่อนที่เราจะมาคิดเรื่องนี้ เราควรถามใจตัวเองดูก่อน ควรถามตัวเองว่าชอบบ้านแบบไหน ชอบบ้านไม้หรือชอบบ้านปูน อยากอยู่บ้านปูนหรืออยากอยู่บ้านไม้ ต้องใช้เวลาคิดพิจารณานานพอสมควร เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่ ควรคิดให้รอบคอบ เมื่อเราได้คำตอบแล้วว่าชอบบ้านแบบไหน ระหว่างบ้านไม้กับบ้านปูน ขั้นตอนต่อไปก็ควรออกแบบ สร้างบ้านตามความชอบของเรา หากได้บ้านตามรูปแบบที่เราต้องการ เราจะอยู่บ้านหลังนั้นอย่างมีความสุข และไม่ผิดหวัง ไม่เสียใจกับการออกแบบ กับการตัดสินใจเลือกของตัวเอง แต่ถ้าจะมาพูดถึงเรื่องการดูแลรักษาความสะอาด บ้านปูนจะดูแลรักษาง่าย และทำความสะอาดง่ายกว่าบ้านไม้ บ้านปูนเป็นบ้านที่กวาดพื้นได้ง่าย และถูพื้นได้ง่ายกว่าบ้านไม้ แถมยังสะอาดกว่ากันอีกด้วย แต่บ้านไม้นั้นมันกวาดยาก ต้องใช้เวลากวาดหลายรอบ ฝุ่นถึงจะออกหมด เวลาถูพื้นก็ถูยาก เพราะระดับของพื้นไม้มันไม่ได้มีความเรียบเหมือนกระเบื้องที่นำมาใช้ปูพื้นปูน นอกจากนี้แล้วหยากไย่มันมักจะเกาะตัวอยู่บ้านไม้มากกว่าบ้านปูน และเป็นการเกาะตัวที่ทำความสะอาดได้ยากมาก รวมถึงบ้านไม้นั้นมักจะมีปัญหาในเรื่องของปลวกชอบมากัดกินเสาบ้านและตัวบ้าน เพราะปลวกมันชอบแทะไม้เป็นชีวิตจิตใจ ทำให้บ้านไม้ชำรุดทรุดโทรมและเก่าไวกว่าบ้านปูน อีกทั้งสัตว์ชอบมาทำรังไม่เว้นแต่ละวัน เช่น ผึ้ง เป็นต้น          …

ก่อนที่จะซื้อบ้านสักหลัง เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย พักผ่อนหย่อนใจ เราจะต้องใช้เกณฑ์มาช่วยในการตัดสินใจอยู่หลายอย่างพอสมควร เพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง จึงต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ           สำหรับคนที่ฝันว่าอยากจะมีบ้านสักหลัง ก็อาจจะเกิดคำถามขึ้นว่าเราควรจะสร้างบ้านเอง ออกแบบบ้านเองหรือไม? หรือว่าเราควรจะไปซื้อบ้านที่เขาทำไว้ขายดี เช่น บ้านจัดสรร บ้านเดี่ยว เป็นต้น คำตอบของคำถามนี้จะต้องพิจารณาเป็นประเด็นๆไป เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป หากเราสร้างบ้านเอง มันก็มีข้อดีตรงที่เราได้เลือกแบบบ้านเอง ได้ออกแบบ้านเอง ทำให้บ้านออกมาตรงตามที่เราต้องการ แต่ข้อเสียของมันคือเสียเงินเยอะ เพราะการที่เราสร้างบ้านเอง เราจะต้องสูญเสียเงินไปกับการตกแต่งบ้าน ต่อเติมบ้านอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้งบประมาณในการสร้างบ้านบานปลาย แต่ถ้าหากเราไปซื้อบ้านที่เขาทำไว้สำหรับขาย ก็จะทำให้เราไม่เสียเวลา เพราะเขาทำไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่เรามีเงินจ่ายเขา เราก็สามารถขนของเข้าไปอยู่ในบ้านได้แล้ว ซึ่งก็แล้วแต่เราว่าจะชอบบ้านแบบไหน บางคนชอบบ้านจัดสรร บางคนชอบบ้านเดี่ยว บางคนชอบบ้านที่เป็นตึกอาคารพาณิชย์ ซึ่งแต่ละแบบก็จะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ข้อดีของการซื้อบ้านสำเร็จที่เขาทำไว้ขายคือทำให้เราไม่เสียเวลา หากไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินสด ก็สามารถผ่อนจ่ายได้ แต่ข้อเสียของมันก็คือรูปแบบบ้านอาจจะไม่ถูกใจ ไม่ตรงใจ ไม่ตรงกับความต้องการของเรา 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้ารับข้อนี้ได้ก็ไม่เลวถ้าหากจะซื้อบ้านสำเร็จสักหลัง สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องการสุงสิงกับใคร ก็ควรซื้อบ้านเดี่ยว สำหรับคนที่ต้องการทำการค้าขายไปด้วย ก็ควรเลือกซื้อบ้านแบบอาคารพาณิชย์ เป็นต้น           นอกจากนี้แล้วการสร้างบ้านเองอาจทำให้บ้านเสร็จช้า เพราะทยอยทำตามงบประมาณที่มี เงินหมดก็พักไว้ก่อน…